วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เข้าพรรษา หน้าฝน กับ เรื่องของขนไก่

เข้าพรรษาหน้าฝน ทั้งคนทั้งไก่ ก็เริ่มที่จะหยุดกิจกรรมบางอย่าง หลาย ๆ ท่านใช้โอกาส นี้ปวารณาตัวเองงดดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเข้าวัดหลังจากที่ใช้ชีวิต ด้วยความโลดโผนมานาน ตลอดทั้งปีแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้ว่าเป็นระยะเวลาเพียงแค่สั้น ๆ แต่ก็เป็นการสร้างโอกาสในการเริ่มสิ่งดี ๆ ขึ้นก็ได้ ดีกว่าไม่มีโอกาส ในการเริ่มซะเลย หากใครที่ปวารณาในการทำความดีช่วงเข้าพรรษาไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ขออนุโทนาด้วย
ที่นี้มาเข้าเรื่องของบรรดาไก่ชนมั่งช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ไก่ชนส่วนใหญ่ได้มีโอกาส หยุดการต่อสู้ชั่วคราวเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงทางฤดูกาล พอเข้าหน้าฝนบรรดาไก่ชน นักสู้หงอนแดงแข้งติดเดือยทั้งหลาย ก็เริ่มที่จะนัดกันผลัดขน เป็นช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จากไก่ลูกกระแอก็เปลี่ยนมาเป็นไก่หนุ่ม ไก่หนุ่มก็เปลี่ยนมาเป็นไก่หนุ่มใหญ่ ไก่หนุ่มใหญ่ก็จะเข้าวัยไก่รุ่นใหญ่ฉกรรจ์เต็มตัว ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกหนึ่งวัย ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง หลังจากขนเต็มตัวแล้ว ก็ถือว่าบรรดาไก่หนุ่มเหล่านั้นก็จะได้มีการเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อจะต่อสู้ในวันข้างหน้า ส่วนบรรดาหนุ่ม ๆ ที่เข้าสู่การเป็นลูกแซม หรือ ลูกถ่ายใหญ่ ก็เตรียมตัวมาเข้าสังเวียนเลือดต่อไป
การเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่ไก่ได้ถ่ายขนนั้น มีอะไรหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นในตัวไก่ อย่างเช่นเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ร่างกายจะโตขึ้น น้ำหนักมากขึ้น โครงสร้างทางร่างกายหนาขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเข้มแข็ง และ ความแกร่งไปอีกระดับ อีกสิ่งหนึ่งที่นอกเหนือจากความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่เราเห็นเป็น รูปธรรมได้แล้ว สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบนามธรรม คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจของไก่เอง เนื่องจากช่วงระยะเวลาที่ไก่ผลัดขนนั้น อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ไก่ชนทั้งหลายได้พักผ่อนร่างกายจากการตรากตรำต่อสู้ในสังเวียนเลือดติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เมื่อไก่ได้พิสูจน์ตัวเองระดับหนึ่งว่าควรค่ากับการสืบเผ่าพันธุ์เจ้าของจะปล่อยเพื่อผสมพันธุ์ ปล่อยคุมฝูง มีความเป็นอิสระ ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่ไก่มีความสุข ที่ได้อยู่กับฝูงกับตัวเมีย ได้ผสมพันธุ์ ได้ขึ้นชื่อว่าอยู่ในดับสูงสูดในการจัดลำดับทางสังคมของฝูง ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทำให้ไก่ที่ผ่านการถ่ายขน และ การคุมฝูงนั้นก็จะทหให้ไก่ได้มีการพัฒนาทางจิตใจไปอีกหนึ่งขั้น คือจะมีความฮึกเหิมมากกว่าไก่หนุ่มที่ยังไม่เคยคุมฝูง จนกระทั่งขนเต็มสุดสร้อย สุดปีก สุดหาง ก็เป็นเวลาที่เจ้าของต้องจับออกจากฝูงเพื่อกลับมาทำหน้าที่ในสังเวียนอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้เองเป็นความแตกต่างระหว่างไก่หนุ่มกับไก่แซม ไก่ถ่าย ความแตกต่างทั้งสอง มิติ คือ ในแง่ของ ร่างกาย และ จิตใจ ไก่ถ่ายย่อมมีมากกว่าไก่หนุ่ม
ไก่ชนเป็นไก่ที่จำเป็นจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงคือ มีประสิทธิภาพในการออกแรงได้มาก ได้นาน เคลื่อนไหวได้เร็ว
แข็งแกร่งคือ มีความทนทานต่อการต่อสู้ ทนต่อความเจ็บปวดได้ดี
และ อีกอย่างคือ สภาวะ ทางจิตใจของไก่ คือ เป็นไก่จิตใจที่พร้อมที่จะต่อสู้ ต้องการเอาชนะ ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
จะเรียกว่าเป็นความได้เปรียบของไก่ แซมไก่ถ่าย ที่ได้เปรียบไก่หนุ่ม หากจะเรียงตามลำดับ ก็คือ ไก่ลูกถ่าย ได้เปรียบไก่ลูกแซม ไก่ลูกแซมได้เปรียบไก่หนุ่ม ไก่หนุ่มอายุมากกว่าได้เปรียบไก่หนุ่มที่อายุน้อยกว่า
สิ่งเหล่านี้นี่เองที่เป็นสิ่งที่รับรู้กันมาได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นไปโดยอัตโนมัติว่า อย่าอาจหาญ เอาไก่หนุ่มไปตีกับลูกอายุ ซึ่งหากเรามอง หากเราพิจารณาจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว จะเห็นถึงการเสียเปรียบของไก่หนุ่มที่มีแก่ไก่ลูกอายุ ซึ่งไม่ได้หมายความไปถึงว่า ไก่ลูกหนุ่มจะสู้ไก่ลูกอายุไม่ได้ เป็นแต่เพียงว่า การที่ไก่ที่มีความเสียเปรียบนั้นโอกาส ที่จะเอาชนะไก่ที่ได้เปรียบอยู่ก็มีน้อยลง การเอาชนะไก่ลูกอายุที่ดีกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างที่เห็น ๆ กันประจำในสังเวียนการต่อสู้ของไก่ ไก่หนุ่ม ๆ บางครั้งจะเป็นตัวตีมากกว่า แต่ว่าไม่สามารถเก็บไก่ลูกอายุได้ กลับกันหากลูกอายุตีไก่ลูกหนุ่มกลับไม่สามารถทนได้ ทั้งนี้ก็มาจากสภาพเงื่อนไขทางด้านร่างกายที่มีความได้เปรียบกันนั่นเอง ในส่วนของเรื่องจิตใจเองก็เช่นเดียวกัน มีผลกับการแพ้ชนะของไก่มาก พอ ๆ กับเงื่อนไขทางด้านร่างกาย บ่อยครั้งจะเห็นว่าไก่ที่โดนเจ็บ ๆ เท่า ๆ กัน ไก่ลูกอายุนั้นจะมีความอดทนมากกว่าไก่ลูกหนุ่ม ซึ่งหากตีเท่ากันความอดทนต่างกันนั้นปัจจัยที่จะมาชนะกันก็เป็นเรื่องของจิตใจกันแล้ว
ทั้งนี้สิ่งที่กล่าวมามองแค่ความแตกต่างทางด้านความได้เปรียบเรื่องอายุเท่านั้น เราเองจะเห็นเสมอมาว่าการพิจารณาในการเปรียบไก่นั้น องค์ประกอบหนึ่งที่ มือเปรียบไม่เคยมองข้ามคือ ความเป็นไก่ลูกหนุ่ม ลูกแซม และลูกอายุ ของไก่คู่ต่อสู้ที่ต้องการจะตีด้วย เพราะว่าหากได้เปรียบอายุก็มีความได้เปรียบในระดับหนึ่งแล้ว หากส่วน อื่น ๆ พอ ๆ กัน ก็ทำให้มั่นใจได้และมองถึงชัยชนะได้ แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องเพราะว่าการ แพ้ชนะของไก่นั้นมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง หนึ่งในนั้นคือเงื่อนไขของการแตกต่างเรื่องอายุนั่นเอง การชนไก่ในสังเวียนเราเองก็จะเห็นเสมอมาว่าเซียนที่เล่นไก่นั้น ก็นำราคาของการเป็นลูกถ่าย ลูกอายุ มาตีราคาต่อรอง ถ้าไก่ตีกันสูสี ส่วนมากราคาก็จะให้ไก่อายุดีกว่าเป็นต่อ ไม่น้อยก็มาก
ที่หยิบยกเรื่องนี้มาเพราะว่า หลังจากหมดหน้าฝนไก่เหล่านี้ก็ต้องทยอยกันเข้าสู่สังเวียน สร้างความคึกคักกับวงการอีกครั้ง ก็เป็นการบ้านสำหรับคนที่เลี้ยงไก่ออกตีล่ะครับ ไก่เก่งที่ผ่านสังเวียนมาแล้วและเสร็จสิ้นภารกิจของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายถ่ายขน ก็จะออกมาอาละวาดกัน สำหรับท่านที่อุ้มไก่หนุ่มเข้าไปในสังเวียนก็คงต้องระวังไก่ลูกถ่ายให้มากขึ้น เพราะว่านอกจากไก่ลูกถ่ายเหล่านี้จะมีความแข็งแกร่งทางร่างกายแล้ว ยังเชื่อได้เลยว่าต้องเป็นไก่เก่งมาก่อน เพราะว่าหากไก่เหล่านั้นไม่เก่งก็คงคงจะไม่สามารถก้าวผ่านพ้นวัยแห่งการเป็นถ่ายขนแล้วกลับมาสู่สังเวียนอีกได้ คงถูกจำหน่าย ถูกกำจัดพ้น ๆ ซุ้มไปแล้ว ช่วงนี้กระแสการชนไก่ไม่คึกคักเท่าไหร่ หลายสนามได้ข่าวว่าไก่ติดคู่ตีกันไม่มากและ ไม่ครึกครื้นนัก ต่างก็เฝ้ารอการกลับมาของบรรดานักสู้ที่กำลังถ่ายขนเพื่อกลับมากระตุ้นความมีชีวิตชีวาของวงการอีกครั้ง ประมาณ ออกพรรษาถึงปลายปี ก็คงจะเริ่มกลับมาสู่สถาวะปกติอีกครั้ง ก็เตรียมไก่ เตรียมกระสุนไว้สู้กันให้เต็มที่มีความสุขกับการตีไก่นะครับ โชคดีมีชัยตีไก่ได้ตังค์ครับผม